>>สูตรอาหารผิวสวย

                น้ำมะระ อร่อย เพื่อผิวสวย

                เรารู้ว่าดาราหลายคนที่มีผิวเด้งเต่งตึงอยู่หน้าจอแก้วหรือเงินในวันนี้ ล้วนแล้วแต่ดื่มน้ำ
มะระ
มะระเป็นอาหารเสริม
                เนื่องจากมะระช่วยเจริญอาหาร มีแร่ธาตุสำคัญอย่างแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี ไนอาซิน และเบต้าแคโรทีน ทำให้ผิวพรรณดี นอกจากนี้ยังเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยบำรุงน้ำดี แก้ตับม้ามอักเสบ และขับพยาธิ
                เกร็ดสุขภาพมือโปรปักษ์นี้จึงจะชวนคุณทำน้ำมะระดื่มเอง ขมน้อย อร่อยลิ้น
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
·       มะระจีน               200 กรัม
·       น้ำสับปะรด          1 ½ ถ้วย
·       น้ำมะนาว             2 ช้อนโต๊ะ
·       เกลือป่น                ¼ ช้อนชา
วิธีทำ
1.         ล้างมะระจีนให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นบาง ตามขวาง ใส่กล่องพลาสติกที่มีฝาปิด นำไปแช่ในช่องฟรีซของตู้เย็น
2.         นำมะระจีนออกจากตู้เย็น ใส่ลงเครื่องแยกกาก
3.         เทน้ำมะระใส่แก้ว ตามด้วยน้ำสับปะรด น้ำมะนาว และเกลือป่น คนให้เข้ากัน (อาจเติมน้ำแข็งเล็กน้อย) แล้วดื่มทันที
ลองทำดื่มดูแล้วจะติดใจ ว่าแต่สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเท่านั้นนะคะ

จาก...นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 369

4 Steps ทำก่อนนอน...ตื่นมาสวยปิ๊ง

     1. ล้างหน้าให้สะอาดเป็นนิสัย: การทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดก่อนหลับยาวตลอดคืนเป็น
สิ่ง จำเป็นอย่างยิ่ง จึงต้องทำให้เป็นนิสัย เพราะผิวหน้าที่ไม่สะอาดจะไม่ถูกทำร้ายจากสารเคมี ฝุ่นละออง และมลภาวะที่ผิวได้รับมาระหว่างวันไปตลอดคืน
ตื่นมาสวยปิ๊ง



2.  มอยเจอไรเซอร์แก้ปัญหาตรงจุด: หลังตื่นอนเรามักพบปัญหาผิวบางอย่างได้เหมือนกัน เช่น รอบดวงตาบวม รอบดวงตาดำคล้ำ มอยเจอไรเซอร์เป็น a girl’s best friend ของสาวๆ  เสมอ
          สำหรับสาวที่มีปัญหาใต้ตาบวมน้ำ ก่อนนอน ลองใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของกาเฟอีน จะช่วยลดอาการบวมรอบดวงตาได้
          สำหรับคนที่มีปัญหารอบดวงตาดำเป็นแพนด้า เลือกใช้ครีมทารอบดวงตาที่มีวิตามินเค และเรตินอยด์ ติดต่อกัน 3 เดือนก็จะเห็นผล
      สำหรับสาวๆ ที่ไม่มีปัญหาแต่อยากตื่นขึ้นหมาหน้าใสปิ๊ง แนะนำมอยเจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ เพราะช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รูขุมขนกระชับ ทำให้ผิวดูอ่อนวัย


3.   เปลี่ยนท่านอน หลายคนคงเคยตื่นนอนขึ้นมาแล้วหน้ายับยู่ยี่ โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก
ด้านข้างของจมูก และคาง นั่นเพราะอาจนอนตะแคงหรือนอนคว่ำมาทั้งคืน ทางออกคือฝึกนอนหงายก่อนหลับทุกคืน


4.   สวมชุดนอนผ้าฝ้าย เปลี่ยนมาใส่ชุดนอนผ้าฝ้ายแทนที่จะใส่ชุดนอนที่ทำด้วยโพลีเอสเตอร์
เพราะช่วยให้ผิวเก็บน้ำไว้ได้ดีกว่า


            เจอกันพรุ่งนี้เช้า ต้องสวยกว่าเดิมแล้วนะ

 Did you know?
          แกว่งแขนช่วยเดินเร็ว
          คนที่เพิ่งจะเริ่มเดินออกกำลังกาย มักยังเดินช้า และอยากเดินเร็วเพื่อเรียกเหงื่อ และให้ได้ออกกำลังกายเต็มที่ หลายคนจึงบังคับตัวเองให้เดินเร็ว แต่ก็เป็นไปอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
          การแกว่งแขนแรงขึ้น เร็วขึ้น เป็นวิธีหนึ่งช่วยเดินเร็วอย่างเป็นธรรมชาติขึ้นได้โดยอัตโนมัติ

จาก...นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 344

8 Easy Tricks ช่วยหุ่นสวย ฟิต เฟิร์ม ตลอดไป

ขณะ กำลังลดน้ำหนัก หลายคนต้องเคยผ่านประสบการณ์การอดอาหารชนิดนั้น งดอาหารชนิดนี้ตามสูตรลดน้ำหนักต่างๆ ซึ่งกว่าน้ำหนักจะลดลงมาได้สัก 23 กิโลกรัมก็เหนื่อยจนแทบขาดใจ
ซ้ำ ร้ายกว่านั้น ระหว่างปฎิบัติการควบคุมอาหารนี้ น้ำหนักเจ้ากรรมก็ดันพุ่งกลับขึ้นมาใหม่ ทั้งที่น้ำหนักเดิมยังลดลงไม่ได้ตามที่ตั้งไว้ จึงท้อแท้ใจ จนล้มเลิกแผนการไปกลางคัน
หุ่นสวย

 ชีวจิตปักษ์นี้จึงขอนำเสนอวิธีลดน้ำหนักให้ถึงเป้าหมายแบบชิลล์ๆ แถมยังคงหุ่นสวย ฟิต เฟิร์มไว้ได้ตราบนานเท่านาน
ปรับพฤติกรรม
หัวใจสำคัญของการ ลดน้ำหนัก
            หัวใจหลักของสูตรลดน้ำหนักนี้มีอยู่ข้อเดียว คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งพฤติกรรมการกินอาหารและการดำเนินชีวิต เพราะน้ำหนักจะลดลงได้และคงสภาพไว้ตลอดไป ผู้ลดน้ำหนักต้องมีพฤติกรรมที่ถูกต้องและเหมาะสม
 ที่สำคัญที่สุด คือ ต้องปฏิบัติไปตลอดชีวิต
เรื่องนี้ฟังแล้วอาจรู้สึกว่าทำยาก แต่ผู้เขียนขอรับรองว่า ไม่ยากเกินความสามารถของผู้อ่านชีวจิตคนเก่งอย่างแน่นอนค่ะ
            รองศาสตราจารย์นายแพทย์สุเทพ อุดมแสวงทรัพย์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า
ร่าง กายของเรานั้นได้รับพลังงานจากอาหาร และนำพลังงานเหล่านั้นมาใช้ทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อร่างกายนำพลังงานที่ได้รับไปใช้ไม่หมด ก็จะเก็บสะสมไว้ในรูปของไขมันตามส่วนต่างๆของร่างกาย เพื่อสำรองไว้ใช้ในอนาคต"
หาก เรากินอาหารมากเกินไปหรือรับพลังงานมากกว่าที่ร่างกายต้องการใช้เป็นประจำ ไขมันก็จะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดภาวะน้ำหนักเกิน หรือที่เรียกว่า โรคอ้วน นั่นเอง
เหล่านี้คือเรามาดูการปรับพฤติกรรม เพื่อลดน้ำหนักให้สำเร็จกันค่ะ
อยากหุ่นสวย ฟิต เฟิร์ม ต้องอ่าน Trick 1-8 มีอะไรบ้างนั้นติดตามอ่านได้ที่ คอลัมน์ เรื่องพิเศษ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 365 (16 ธันวาคม 2556) จ้า...
จาก...นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 365

8 อาหาร ช่วยฟันขาว เพิ่มยิ้มสวย

ฟันขาว ยิ้มสวย
           สีของฟัน เป็นสิ่งที่ส่งผลต่อ ความงดงามของรอยยิ้ม และยังเป็นกระจกที่สะท้อน บุคลิกภาพของเราได้เป็นอย่างดี ชีวจิตปักษ์นี้จึงขอแนะนำอาหารบำรุงฟัน เพิ่มความขาว สวย และแข็งแรงจาก Lisa Collier Cool นักเขียนเจ้าของรางวัล June Roth Memorial Medical Journalism Award ดังต่อไปนี้

1. ขึ้นช่าย แอปเปิ้ล และแครอท ผักผลไม้ที่มีความกรุบกรอบเหล่านี้ สามารถกระตุ้นกระบวนการผลิตน้ำลาย ซึ่งเปรียบเสมือนเครื่องทำความสะอาดฟันธรรมชาติ ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยขัดถูฟันให้สะอาดเอี่ยม ในยามที่ขบเคี้ยวได้อีกด้วย
2. บร็อคโคลี่
ช่วยสร้างแผ่นฟิล์มบางๆ ไว้บนเคลือบฟัน ซึ่งช่วยป้องกันกรดจากอาหารได้
3. ส้มและสับปะรด
จะช่วยกระตุ้นกระบวนการผลิตน้ำลาย นอกจากนี้เปลือกส้มด้านใน ยังสามารถนำมาใช้ขัดฟัน เพื่อขจัดคราบหินปูนและช่วยให้ฟันขาวสะอาดได้อีกด้วย
4. น้ำมะนาว ลองผสมน้ำมะนาวกับเบกกิ้ง โซดา หรือเกลือ แล้วนำมาถูฟัน จะช่วยให้ฟันขาวขึ้น แต่ข้อควรระวังคือ ต้องทำความสะอาดฟันให้ดี เพราะหากมีกรดจากน้ำมะนาวตกค้างอยู่ จะทำลายเคลือบฟันได้
5. สตรอว์เบอร์รี่ เป็นผลไม้ค่อนข้างพิเศษ เพราะไม่ทำให้เกิดคราบบนฟัน เหมือนผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปบดผสมกับผงฟู นำมาทาบนฟัน ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออก วิธีนี้ช่วยขจัดคราบฟันให้หมดไปได้อย่างน่าทึ่ง
6. น้ำแอปเปิ้ล ไซเดอร์ นำไปผสมกับเบกกิ้ง โซดา แล้วนำมาถูฟันเป็นประจำ จะช่วยขจัดหินปูนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ต้องไม่ลืมทำความสะอาดฟันให้สะอาดอีกครั้งด้วย เพราะกรดจากแอปเปิ้ล ไซเดอร์ อาจไปทำลายเคลือบฟันได้
7. เห็ดชิทาเกะ มีส่วนผสมของ เลนติแนน (Lentinan) ซึ่งเป็นน้ำตาลชนิดหนึ่ง มีสรรพคุณช่วยป้องกัน แบคทีเรียในช่องปากที่คอยกัดกร่อน และย่อยสลายเคลือบฟันได้
8. งา นอกจากจะสามารถลดแบคทีเรียในช่องปาก และช่วยขัดถูฟันเวลาขบเคี้ยวแล้ว งายังอุดมไปด้วยแคลเซียม สารสำคัญสำหรับสุขภาพฟันด้วย
            หากอยากมีฟันขาวๆ ไว้แจกยิ้มสวยแก่คนรอบข้าง ก็อย่าลืมลองใช้อาหารช่วยฟันขาว ควบคู่กับการดูแลสุขภาพฟันเป็นประจำกันนะครับจาก...นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 360

3 ท่านวดกดจุดอัพผิวสวยก่อนนอน

ก่อนนอนเรา มาคว้านาทีทองนี้ในการบำรุงผิวพรรณให้สดชื่นด้วยการนวดกดจุด ที่จะช่วยกระตุ้นให้สารอาหารและความชุ่มชื้นเข้าสู่เซลล์ผิวหนังได้ง่ายและ รวดเร็ว

หลังจากทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแล้ว ลงมือนวดกดจุดบริเวณที่แนะนำไว้ในหนังสือ ยิ่งนอนยิ่งผอม สำนักพิมพ์อมรินทร์ ดังนี้ค่ะ

นวดก่อนนอน

จุดโคนนิ้วโป้ง
กดนิ้วหัวแม่มือซ้ายลงบนจุดหลังมือขวา บริเวณแอ่งระหว่างโคนนิ้วหัวแม่มือกับโคนนิ้วชี้ สลับทำข้างขวา

จุดเหนือมุมปาก
กด นิ้วชี้แต่ละข้างลงบนจุดตัดระหว่างเส้นแนวตั้ง ที่ลากลงมาจากกึ่งกลางดวงตากับเส้นแนวนอนที่ขนานกับปีกจมูก โดยจุดนี้จะอยู่ใกล้กับโหนกแก้มด้านล่าง ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในชั้นผิวหนัง

จุดข้อศอก
กดนิ้วหัวแม่มือลงบนจุดที่ปลายรอยพับของข้อศอก (ฝั่งเดียวกับนิ้วหัวแม่มือ) จะช่วยแก้อาการร้อนในและขจัดท็อกซิน

Tips นวดกดจุดให้ได้ผลควรกดนิ้วลงบนจุดที่ต้องการ โดยออกแรงพอประมาณจนรู้สึกเจ็บเล็กน้อย จากนั้นนวดวนอย่างต่อเนื่อง 30 วินาที

ตามด้วยการรีแล็กเซชั่นเพิ่มหลับลึก เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ผิวอย่างเต็มที่ค่ะ 
นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 331

สารอาหารเพื่อเล็บสวย

เล็บสวย
หลายคนที่ ติดตามอ่านนิตยสารชีวจิตจนรู้ลึกหลายวิธีเช็คปัญหาสุขภาพ ทราบไหมคะว่าปัญหาเล็บแตก ลอก มีจุดขาว และเชื้อรา ไม่เพียงทำให้เล็บหมดสวย แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนของอาการขาดสารอาหาร

พร้อมแนะนำสารอาหารที่ควรเสริม เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดช่วยให้ร่างกายและเล็บกลับแข็งแรงดังเดิม ค่ะ

ปัญหาเล็บ

สารอาหารที่ควรเสริม

พบใน
ตก

เบต้าแคโรทีน

บรอกโคลี แคนตาลูป ฟักทอง แครอท มะม่วง และผักขม


ลอก

ซิลิกา

ซิลิกา
มีจุดขาว

สังกะสี

อาหารทะเล จมูกข้าวสาลี ยีสต์ และเมล็ดฟักทอง
มีเชื้อรา

วิตามินบีรวม และกรดแพนโทเทนิก

ธัญพืชไม่ขัดสี จมูกข้าวสาลี รำข้าว ผักสีเขียว และถั่ว



กินอาหารสูตรชีวจิตสม่ำเสมอ ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน เล็บสวย แข็งแรงในคราวเดียวค่ะ
จาก...
นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 322

สปามะละกอปราบสิวเพิ่มสวยวันทำงาน

ประโยชน์ ของสูตรนี้อยู่ที่มะละกอสุกเนื้อหวาน ซึ่งเป็นแหล่งวิตามินเอและซี เมื่อนำมาขัดใบหน้าเบาๆ สัปดาห์ละครั้ง จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วไม่ให้อุดตันรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุของสิวเสี้ยน สิวหัวดำ สิวหัวช้าง ฯลฯ ขณะเดียวกันก็ช่วยบำรุงผิวหน้าให้นุ่มชุ่มชื้นขึ้น
มะละกอสุก


เพื่อเสริมสุขภาพใบหน้าแบบเพลินอารมณ์ แนะนำให้ทำสปาไปพร้อมๆ กันค่ะ

วิธีทำ
1. ผ่ามะละกอสุกผลเล็ก 1 ผล ออกเป็นสี่ชิ้นตามยาว ปาดเนื้อมะละกอออก เหลือเนื้อติดเปลือกไว้พอประมาณ เตรียมไว้
2. เทน้ำอุ่นใส่อ่างน้ำขนาดกลาง ใส่ใบสะระแหน่สดหรือแห้ง 1 หยิบมือ ตามด้วยน้ำมันหอมระเหยกลิ่นมินต์ 2-3 หยด ผสมให้เข้ากัน
3. อังหน้าให้ไอน้ำระเหยถึง ใช้ผ้าคลุมศีรษะและอ่างเพื่อเก็บไอน้ำ โดยเปิดผ้าระบายอากาศไว้เล็กน้อย
4. ขัดใบหน้าเบาๆ ด้วยเปลือกมะละกอสุก (ใช้ส่วนด้านในที่ติดเนื้อ) ให้ทั่วใบหน้า จากนั้นล้างหน้าให้สะอาด ซับหน้าให้แห้ง

เสกใบหน้าสวยไร้สิวแบบง่ายๆ คุณค่ามะละกอไทยที่คุณคู่ควรค่ะ
จาก...
นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 302

3 โยคะท่าสัตว์บริหารหน้าสวยใส

แม้คน วัยหนุ่มสาวจะยังไม่ค่อยประสบปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย หรือผิวเสีย เพราะระบบร่างกายยังทำงานดีอยู่ก็ตาม แต่หากไม่ดูแลตัวเองให้ดี คุณก็มีสิทธิ์เผชิญความแก่ก่อนวัยได้เช่นกัน
ฉบับนี้เราจึงนำท่าโยคะดีๆ มาฝาก ซึ่งช่วยทั้งกระชับกล้ามเนื้อ และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณใบหน้าและลำคอ ทำให้กล้ามเนื้อใบหน้ากระชับ ช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง
 แนะนำให้ทำท่าโยคะต่อไปนี้เป็นประจำทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น โดยทำ 5-10 ครั้ง
• ท่า ปลาทอง อ้าปากพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น หุบปากลงช้าๆ พร้อมกับทำแก้มป่อง ทำเป็นจังหวะ 2-3 ครั้ง จังหวะสุดท้ายให้อมลมไว้ในปาก ใช้นิ้วมือกดริมฝีปากลงให้แก้มป่องขึ้น ค้างไว้ 10 วินาที หายใจเข้า-ออกตามปกติ แล้วค่อยๆ ปล่อยลมออก
• ท่าปลาปักเป้า ดูดกะพุ้งแก้มทั้งสองข้างเข้ามาจนปากจู๋ จากนั้นใช้ฟันกรามกดค้างไว้เบาๆ 10 วินาที แล้วค่อยๆ ปล่อยแก้มออก
• ท่า กบกลืนน้ำลาย นั่งขัดสมาธิ เท้าแขนทั้งสองข้างกับพื้นด้านหน้าให้แขนตึง เงยหน้าขึ้น 45 องศา กลืนน้ำลายลงคอ พร้อมกับกลั้นหายใจ 5-10 วินาที
เพียงเท่านี้ความสวยสดใสก็จะอยู่กับเราไปได้อีกนานค่ะ
อ้างอิง
ฉัตริษา ศรีสานติวงศ์. โยคะหน้าเด็ก. กรุงเทพฯ: อมรินทร์สุขภาพ, 2553.
จาก...
นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 287

สูตรอายุรเวท เพิ่มสวย ลดป่วย ชะลอแก่

แท้จริงแล้วอายุรเวทคือวิธีการดูสุขภาพแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งกายใจ สอดแทรกอยู่ในทุกกิจกรรมและทุกช่วงเวลาของชีวิต  ตั้งแต่ลืมตาตื่นถึงเข้านอน จากกลางวันถึงกลางคืน จากฤดูกาลสู่ฤดูกาล จากวัยแรกเกิดถึงวัยชรา ผ่านการกินอาหาร ยาสมุนไพร การออกกำลังกาย การพักผ่อน การชำระล้างร่างกายและจิตใจ 
อายุรเวท

  เมื่อทั้งภายในและภายนอกร่าง กายมีความกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ความงามย่อมปรากฏ ความเจ็บป่วยย่อมห่างไกล และเตรียมพร้อมสู่ความเปลี่ยนแปลงแห่งวัยอย่างแข็งแรงและสุขภาพดี

อายุรเวทคืออะไร

 อายุรเวท เป็นศาสตร์การดูแลสุขภาพของอินเดียที่มีอายุหลายพันปี ใน “ตำราจรกะสัมหิตา” ซึ่งเป็นตำราอายุรเวทที่ได้รับการบันทึกไว้เป็นเล่มแรก เพื่อให้ความรู้แก่หมอหลวงและถือเป็นตำราสำคัญจนถึงทุกวันนี้ซึ่งมีอายุถึง สามพันห้าร้อยปี 
 หลักการสำคัญของอายุรเวทคือมนุษย์เราเกิดมาโดยมี เงื่อนไขและปัจจัยเป็นตัวกำหนดไว้แล้ว เรียกว่า “ประกฤติ” ซึ่งมีความหมายกว้างกว่าคำว่า “พันธุกรรม” ที่เราคุ้นเคย นั่นคือนอกจากจะกำหนดสภาพทางกายแล้วยังครอบคลุมถึงความคิดและจิตใจอีกด้วย
 อายุรเวท แบ่งคนออกเป็น 3 ประเภทโดยดูจากความโดดเด่นของโทษ 3 ประการ หรือเรียกว่า ตรีโทษะ ซึ่งถูกนำมาเรียกขานแบบไทยๆ ให้เข้าใจง่ายขึ้น (แม้จะไม่ตรงความหมายดั้งเดิมนัก) ว่า “ตรีธาตุ” นั่นคือ ธาตุไฟ ธาตุลม และธาตุดินหรือน้ำ
 จากหลักการข้างต้นนำมาสู่การดูแลร่างกายและจิตใจให้ เหมาะสมกับ “โทษ” หรือ “ธาตุ” ดังนั้นผู้ต้องการดูแลสุขภาพกายและใจตามหลักอายุรเวทจึงต้องรู้ว่าตัวเอง เป็นคนธาตุใด เพื่อจะได้ดูแลตัวเองด้วยการกินอาหาร การออกกำลังกาย การผักผ่อน และการชำระล้างร่างกายและจิตใจให้เหมาะสมตามธาตุนั้นๆ


 เมื่อรู้ความหมายของหลักอายุรเวทกันแล้ว เรามาดูการวิธีการดูแลตัวเองตามหลักอายุรเวท โดยเริ่มจาก การกิน

กิน อยู่แบบอายุรเวท เมื่อสามพันห้าร้อยปีที่แล้ว ตำราจรกะสัมหิตากล่าวถึง หลักการกินไว้อย่างน่าสนใจและร่วมสมัย ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ดังนี้

• กินอาหารร้อนเพื่อกระตุ้นการย่อย
• กินอาหารมื้อต่อไปหลังจากร่างกายย่อยอาหารมื้อก่อนหน้าหมดแล้ว
• กินในสถานที่ที่เงียบสงบและรื่นรมย์พร้อมของตกแต่งที่จำเป็น เช่น ดอกไม้หรือผ้าปูโต๊ะที่สะอาด เพื่อไม่ให้จิตใจหดหู่
• ไม่ควรกินอย่างเร่งรีบหรือเฉื่อยช้าเกินไป เพื่อให้อาหารเข้าสู่ทางเดินอาหารอย่างเหมาะสม
• ไม่ควรหัวเราะหรือพูดขณะกิน กินอย่างใส่ใจและพิจารณาสิ่งที่กินว่าสิ่งใดดี-ไม่ดี
• ไม่กินเมื่อไม่หิว หรือมีอารมณ์โกรธ เศร้า หรือความเครียด 
• ไม่ ทำอาหารเพื่อกินคนเดียว แต่ต้องทำเพื่อการแบ่งปันด้วย ในอินเดียโบราณจะแบ่งอาหาร (นอกจากกินเอง) ออกเป็น 5 ส่วนคือ เพื่อบูชาไฟในบ้าน วัว กา สุนัข และคนแปลกหน้า
• เดินร้อยก้าวหลังอาหาร เพื่อช่วยระบบย่อย แต่ไม่ควรออกกำลังกาย มีเพศสัมพันธ์ เรียน หรือนอนหลับภายใน 1 ชั่วโมงหลังอาหาร
• ไม่กินอาหาร ภายใน 2 ชั่วโมงก่อนเข้านอน

กินตามธาตุ
อาหาร แต่ละชนิดมีความหนัก-เบา ร้อน-เย็น แตกต่างกัน อาหารจึงเป็นส่วนสำคัญหรือตัวหลักในการเสริมหรือลดคุณสมบัติเด่น-ด้อยของ ธาตุต่างๆ 
ส่วนควรจะกินอาหารอะไรนั้น เรามีคำอธิบายดังนี้
คนธาตุลม  
เน้น อาหารรสหวาน เปรี้ยว เค็ม เช่น แป้ง โปรตีน เพื่อเพิ่มน้ำหนัก  ควรกินผักสุกหรือผักผัดน้ำมันมากกว่าการกินผักสด  ลดอาหารรสขม ฝาด เผ็ดร้อน และไม่ควรรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดลม เช่น ถั่ว ขนมกรุบกรอบ และน้ำเย็น 
ควรดูแลร่างกายในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงลมแรงซึ่งจะเสริมธาตุลมในตัวให้รุนแรงขึ้น
คนธาตุดิน 
เน้น อาหารรสเผ็ดร้อน ขม ฝาดเพื่อลดความชื้นในร่างกาย ควรกินทั้งผักสดและผักสุกให้มาก ลดอาหารรสหวาน เปรี้ยว เค็ม ซึ่งเป็นอาหารที่เสริมความชื้นในร่างกาย และควรลดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและไขมันลงด้วย
ควรดูแลร่างกายในช่วงต้นฤดูร้อนเป็นพิเศษ 
คนธาตุไฟ 
เน้น อาหารรสหวาน ขม ฝาด เพื่อลดความร้อนในร่างกายควรกินอาหารประเภทนึ่งมากกว่าทอด ลดอาหารรสเผ็ดร้อน เปรี้ยว เค็มซึ่งเป็นอาหารเพิ่มธาตุไฟ ควรระวังร่างกายในฤดูร้อนและฤดูหลังฝนเป็นพิเศษ เพราะจะทำให้ธาตุไฟกำเริบ
จากการกินตามธาตุมาต่อกันที่ การออกกำลังกายตามธาตุ
ออกกำลังกายตามธาตุ
 คน แต่ธาตุมีร่างกายทนทานแตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ คนบางคนจึงรู้สึกมีพลังหลังจากออกกำลังกายอย่างหนัก แต่บางคนกลับอ่อนล้าหมดแรงเอาเสียเฉยๆ 
 คนธาตุลม มีร่างกายผอมแห้งและอารมณ์วูบไหว มีความทนทานน้อยจึงไม่ควรออกกำลังกายแบบรุนแรงเพราะทำให้ธาตุลมกำเริบ ดังนั้นควรออกกำลังกายแบบสงบ นิ่ง สม่ำเสมอ 
 คนธาตุไฟ ควรออกกำลังกายแบบพอเหมาะ การออกกำลังกายมากและแรงเกินไปทำให้ธาตุไฟกำเริบ ดังนั้นควรออกกำลังกายแบบเพิ่มความเย็น ผ่อนคลาย นิ่มนวล 
คน ธาตุน้ำ เป็นคนเฉื่อยชาและน้ำหนักตัวมาก จึงต้องออกกำลังกายแบบหนัก-แรงเพื่อขับไล่ความเฉื่อยเหล่านั้นไปเสีย ดังนั้นควรออกกำลังกายแบบกระตุ้น เคลื่อนไหว ให้มีความร้อนและพลังในหนังสือ Yoga & Ayurveda แนะนำท่าโยคะที่เหมาะกับคนแต่ละธาตุไว้ดังนี้  
 ธาตุลม  ท่านั่งดอกบัว ท่านั่งเพชร ท่าสิงโต ท่าไหว้พระอาทิตย์แบบช้า ท่านักรบ ท่ายืดหลัง ท่างู ท่าตั๊กแตน ท่าบิดกระดูกสันหลังแบบนอน และปิดท้ายด้วยท่าศพ
 คนธาตุไฟ ท่านั่งสมาธิทุกท่ายกเว้นท่าสิงโตซึ่งเป็นท่าเพิ่มความร้อน ท่าไหว้พระจันทร์ ท่าเปิดสะโพก เช่น ท่าสามเหลี่ยม ท่าเรือ ท่าปลา ท่าธนู ท่าเด็ก ท่าบิดหลังแบบนั่ง ท่าโยคะมุทรา ปิดท้ายด้วยท่าศพ
 คนธาตุดิน ท่าสิงโต ท่าไหว้พระอาทิตย์แบบต่อเนื่องหรือกระโดด ท่าสุนัขคว่ำหน้า ท่ายืนด้วยศีรษะและยืนด้วยไหล่ ท่าคันไถ และท่าแอ่นกระดูกสันหลัง เช่น ท่าธนู ท่าอูฐ และปิดท้ายด้วยท่าศพแบบสั้นๆ 
หมายเหตุ: โปรดเรียนรู้ท่าโยคะข้างต้นจากครูโยคะของคุณ



 ได้วิธีการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจตามหลักอายุเวทอย่างครบถ้วนอย่างนี้แล้ว อย่าลืมลงมือปฏิบัตินะคะ  

เรื่องสุขภาพ “ใครทำใครได้” 
จาก...นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 280


6 อาหารเพื่อฟันสวย

 นอกจากการแปรงฟัน งดกินอาหารจำพวกของหวานแล้ว 6 อาหารเหล่านี้ คือ อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ฟันแข็งแรงทนทาน

ลูกเกด

1. แอปเปิ้ล รสหวานลิ้น ไม่เหนียว ช่วยเรียกน้ำลายได้ดี เพราะน้ำลายคือ กลไกธรรมชาติที่ร่างกายใช้ชะล้างเศษอาหารและปรับสภาพความเป็นกรด-ด่างในปาก
2. แครอท ความกรอบจะช่วยให้เหงือกสะอาดและฟันแข็งแรง ช่วยกำจัดเศษอาหาร มีเส้นใยช่วยให้ปากสะอาด ช่วยเรียกน้ำลาย 
3. แครนเบอร์รี่ มีสารประกอบที่สามารถป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเกาะติดฟัน และสกัดกั้นการก่อตัวของคราบจุลินทรีย์
4. กีวี เป็นหนึ่งในสิบของสุดยอดอาหารเพื่อความงาม มีวิตามินซีสูง ช่วยบำรุงฟัน
5. ลูก เกด คืออาหารที่นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยด์ในชิคาโก สหรัฐอเมริกาพบว่า มีกรดโอเลียโนอิก ซึ่งเป็นสารพฤษเคมีที่การทดลองในห้องแล็ปพบว่า ยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก โดยกรดโอเลียนิกที่ความเข้มข้น 31 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ช่วยป้องกันแบคทีเรีย เอส.มิวแทนส์ไม่ให้เกาะผิวฟัน และที่ความเข้มข้น 62 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อพอร์ฟีโรโมนาส กิงกิแวลิส อันเป็นตัวการสำคัญของโรคเหงือกอักเสบ
6. วาซาบิ ซึ่งจากผลการวิจัยเบื้องต้นพบว่า วาซาบิมีสารไอโซธิโอเซียเนต ซึ่งยับยั้งการเติบโตของเชื้อ เอส.มิวแทนส์

จาก...นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 282

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น